นักล่าผู้บ้าบิ่น EP.15 | My Sharona "ชาโรน่าของฉัน"

"ใช่...ชาโรน่าคือชื่อฉันเอง"
สาวสวยบนปกซิงเกิล "My Sharona" ของวง The Knack ในชุดเสื้อกล้ามสุดเซ็กซี่สีขาว กับกางเกนยีนส์ขายาว มือซ้ายถือปกแผ่นเสียงอัลบั้ม 'Get The Knack' ที่ออกวางแผงในปี 1979 เธอคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ชาโรน่า อัลเพอริน (Sharona Alperin) หรือเจ้าของชื่อเพลง "My Sharona" อันโด่งดังของวง The Knack นั่นเอง!
ดั๊ค ฟีเกอร์ (Doug Fieger) นักร้องนำวง The Knack ผู้แต่งเพลงนี้ เขียนเนื้อหาเพื่อพรรณาถึงหญิงสาวที่ตนหลงใหลเอาไว้ได้อย่างน่าติดตามทีเดียว
จุดเริ่มต้นเกิดขึ้น ณ ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง สถานที่ซึ่งเด็กนักเรียนไฮสคูลผู้มีนามว่า "ชาโรน่า อัลเพอริน" ทำงานอยู่ที่นั่น ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเสน่ห์ตรงจุดไหนของเธอที่ดึงดูดจนทำให้ ดั๊ค ฟีเกอร์ หลงรักเธอขึ้นมาทันทีเมื่อได้พบเจอ
หรือว่ามันคือรักแรกพบของทั้งคู่?
เปล่าเลย...
ชาโรน่า มีแฟนอยู่แล้วในตอนนั้น และด้วยอายุของเธอที่อ่อนวัยกว่าดั๊ค ถึง 8 ปี อีกทั้งตัวดั๊ค เองก็มีคนรักของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีความเป็นไปได้เท่าไหร่นักสำหรับความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่า "เพื่อน" ของทั้งคู่
แต่จะว่าไปแล้ว คงไม่มีสิ่งใดมายับยั้ง ดั๊ค ฟีเกอร์ ได้ในช่วงเวลานั้น เมื่อเขาตกหลุมรักชาโรน่า แบบหัวปักหัวปำเข้าให้แล้วสิ!
ดั๊ค ชวน ชาโรน่า มาดูโชว์ของเขาอยู่บ่อยครั้งในขณะที่เขายังไม่ได้เลิกรากับแฟนสาวที่คบหากันอยู่
ด้าน ชาโรน่า เองก็พาแฟนหนุ่มไปดูคอนเสิร์ตของ The Knack อยู่บ่อยๆ เช่นกัน
ความรักของ ดั๊ค ที่มีต่อ ชาโรน่า เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น มากขึ้น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่ง
ดั๊ค เริ่มลงมือเขียนเพลงในเวลาอันสั้นเพื่อหวังให้เธอซาบซึ้ง และปันใจให้บ้าง ว่ากันว่าเขาใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีในการแต่งเพลงนี้
"ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเหมือนกับเธอ"
คือคำพูดที่ ดั๊ค พร่ำเพ้อพรรณนาออกมา
ดั๊ค ลงทุนบอกเลิกแฟนสาวที่คบกันอยู่ ส่วน ชาโรน่า ใช้เวลาเกือบปีถึงยอมเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่ เพื่อมายอมรับ ดั๊ค ฟีเกอร์
ในที่สุด ดั๊ก ฟีเกอร์ ก็ทำสำเร็จแล้วสินะ!
ชาโรน่า ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรกตอนเธอไปเยี่ยม ดั๊ค ที่ห้องซ้อม เธอเป็นคนแรกที่ได้ฟังเพลงนี้ โดยมารู้สึกตัวอีกที ว่าเพลงนี้มีชื่อเธออยู่ในนั้นด้วย ก็เมื่อตอนออกจากห้องซ้อมแล้ว!
"ชุดที่ฉันใส่บนปกคือชุดปกติที่ฉันใส่ประจำอยู่แล้ว แต่แฟนเพลงมักตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นฉัน ฉันจำได้ว่าตอนที่เราออกทัวร์คอนเสิร์ตกัน มีหลายคนที่แต่งตัวเหมือนฉัน จนฉันอดแกล้งถามพวกเธอไม่ได้นะ ว่าแต่งตัวเลียนแบบใครกัน
คำตอบที่ได้คือ "ก็แบบชาโรน่าไง""
ชาโรน่า อัลเพอริน
====================
แม้ว่า ดั๊ก ฟีเกอร์ จะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แม้ว่า ชาโรน่า อัลเพอริน จะเปิดบริษัททำธุรกิจส่วนตัวและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับแวดวงดนตรีเลยก็ตาม แต่ผลพวงจากความโด่งดังของเพลงนี้ ที่ครั้งนึงเคยไต่ขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งบนบิลล์บอร์ดซิงเกิลชาร์ตในอเมริกายาวนานถึง 6 สัปดาห์ ทำให้ชื่อของ "ชาโรนา" และบทเพลงนี้ ยังคงเป็นอมตะค้างฟ้า ถูกสืบทอดกล่าวถึง
ไปยังรุ่นสู่รุ่น มาจวบจนทุกวันนี้แบบไม่มีวันเสื่อมคลาย
และนี่ก็คือบทเพลงบันลือโลกที่โดดเด่นด้วยการกระหน่ำกลองอย่างเมามัน บวกกับท่อนริฟฟ์กีตาร์ที่หนักแน่น เบสกีตาร์ที่ปลุกเร้า จนหัวใจเต้นรัว อีกทั้งเสียงร้องอันทรงพลังที่ถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวอันเป็นที่รักของผู้แต่งผ่านเสียงเพลง และท่อนฮุกอันลือลั่น...
My My My My Sharona !!!
====================
หากชอบเรื่องราวที่นำเสนอ ก็ช่วยกันกดไลค์กดแชร์ เพื่อแบ่งปันให้เพื่อนๆ ของคุณได้รับรู้กันบ้าง และอย่าลืมกดปุ่มติดตามพร้อมกระดิ่งแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวดีๆ ทางด้านดนตรีและกีฬา
พบกันใหม่ในคลิปหน้า
====================
"นักล่าผู้บ้าบิ่น แชนแนล"
ช่องสำหรับคนรักดนตรีและกีฬา
เพื่อไม่ให้พลาดเรื่องราวและสาระดีๆ ทางด้านดนตรีและกีฬา รวมทั้งคลิปเก่าๆ หาชมยาก โปรดกดติดตาม "นักล่าผู้บ้าบิ่น" ทางช่องทางต่อไปนี้
Facebook : นักล่าผู้บ้าบิ่น
👉 / krazyhunter
KZbin : นักล่าผู้บ้าบิ่น
👉 / นักล่าผู้บ้าบิ่น
"แล้วเราจะล่าและบ้าไปด้วยกัน" 🤘⚽️🤘
นักล่าผู้บ้าบิ่น
#นักล่าผู้บ้าบิ่น #TheKnack #MySharona

[@nawinfett94]

ผมชอบ how can love hurt so much

[@bigbermbikerchannel572]

FC.ครับ ตามมาจากเพจ

[@oaddetto5664]

ชอบมากๆครับ....ทำเรื่อยๆนะครับ

[@thaimetalheart]

ขอบคุณที่ติดตามครับ

[@ไม่เคยลําบากอย่าปากดี-ฦ5ค]

ผมรอดูของLOSOสมัยก่อนอยูานะครับ จะติดตามเรื้อยๆเลย

[@thaimetalheart]

ทยอยลงนะครับ เดี๋ยวคนจะเข้าใจว่าเป็นช่องโลโซ 555

[@rafteldesign5711]

นึกถึงหนัง Super 8

[@thaimetalheart]

คิดถึงเลย

[@yanglong9031]

👏👏👏👏👏👏

[@AndyMusic888]

โซโล่ที่หลายคนลืม

[@theophonchana5025]

Sharona Alperin เป็นแฟน Doug Fieger