ชัวร์ก่อนแชร์ น้ำตาลเป็นพิษอย่างเลวร้าย จริงหรือ ?

Рет қаралды 144,177

Күн бұрын

Пікірлер: 129

@BanDitDotCom 2 жыл бұрын

ผมเป็นภูมิแพ้ ฝุ่นอากาศ กินยาแก้แพ้มาตลอดครับ 1 อาทิตย์จะมี 1-5 วันได้ที่ต้องกิน พอผมมากินคีโต ก็ต้องตัดน้ำตาล ภูมิแพ้ผมหายสนิท ไม่ต้องกินยาแก้แพ้เลย พอกลับมากินขนมน้ำตาล หลังจากกินสักพักก็จะเริ่มมีอาการ คันคอ คันในหู คันตา มีน้ำมูก อาการมากหรือน้อยก็ตามปริมาณที่กินครับ ล่าสุดลองกินมันฝรั่งทอดซาวครีมยี่ห้อนึง ภูมิแพ้ขึ้นแรงมากๆ กลายเป็นว่า เป็นที่อาหารต่างๆ ไปกระตุ้นหรือลด ระบบภูมิคุ้มกันของผม อาการอีกอย่างก็คือ เมาน้ำตาลกับปวดหัว ถ้ากินอย่างเค้กสักชิ้นครับ

@dopXqob 2 жыл бұрын

ไม่ควรหยุดกินครับแต่กินให้พอดีกับร่างกาย ส่วนตัวผมทดลองกับตัวเองมาทุกขั่นตอนหยุดทานน้ำตาลมา 4 ปี ทานแต่น้ำตาลที่ได้จากข้าวที่เขาว่าเพียงพอ ผลคือร่างกายไม่มีแรงทั้งที่กินคาร์โบไฮเดรดเพียงพอ แต่พลังงานที่นำไปเลี้ยงส่วนอื่นๆในร่างกายไม่พอทำให้เส้นติดเส้นยึดข้อต่อกล้ามเนื้อมีปัญหาและมีผลต่อสมอง อารมณ์ ความคิด จนถึงขั่นมีปัญหาทางจิตได้ แต่ผลจะค่อยๆแสดงทีละน้อยจาก จนปีที่ 3 พีค จนเริ่มทานผักเสริมมากขึ้นแต่ช่วยไม่ได้เท่าไรเพราะยังไงร่างกายก็ต้องทานน้ำตาลร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพียงแต่หาจุดที่ร่างกายแต่ละคนต้องการให้ได้ ถ้ามากไปน้ำตาลจะเป็นกรดในเลือด ทำให้ไปเกาะตามจุดต่างๆทำให้มีโอกาสเกิดโรคได้แต่มันค่อนข้างเก่าสำหรับการรักษาแบบนี้ อย่าลืมระบบแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งผมได้ทดลองกับตัวเองมาแล้วเก็บงานวิจัยมาแล้วลงทุนกับร่างกายตัวเองมาแล้ว ณ ตอนนี้ผมกลับมาทานน้ำตาลให้พอดี แต่จะเน้นน้ำผึ้งเป็นหลัก หรือความหวานจากน้ำตาลแต่ต้องเป็นน้ำตาลธรรมชาติไม่ใช่น้ำตาลสีขาว ร่างกายเริ่มกลับมาดีขึ้นแต่ต้องใช้เวลา ซึ่งมันเห็นผลชัดเจนว่าน้ำตาลสำคัญแค่ไหน เพียงแต่ต้องดื่มน้ำทดแทนได้พอ

@teamu5676 2 жыл бұрын

ผมอยากรู้เราจะหาสมดุลมันได้ยังไง คิดยังไงก็คิดไม่ออกพอแนะนำได้ไหมครับ

@นายตอต้นตะ Жыл бұрын

น้ำตาลมีอยู่ในอาหารทุกชนิด ซึ่งที่เรียกว่าในรูปของคาร์โบไฮเดรต เมื่อเรากินเข้าไป มันก็จะกลายเป็นน้ำตาลกลูโคส หากกินเยอะมันก็จะเก็บเป็นไขมัน เพราะฉะนั้นถึงไม่กินน้ำตาลร่างกายเราก็ผลิตน้ำตาลขึ้นมาใช้อยู่ดี มันจะหล่อเลี้ยงร่างกายอยู่ประมาณ4กรัม ซึ่งเราก็สามารถใช้พลังงานนี้ได้ทั้งวัน ส่วนน้ำผึ้ง มันเป็นน้ำตาลฟรุ๊กโตส น้ำตาลชนิดนี้ร่างกายใช้ไม่ได้ แต่ที่ได้คือแค่วิตามินในนั้น เมื่อเรากินเข้าไป ภาระที่กำจัดน้ำตาลชนิดนี้คือตับที่เดียว น้ำตาลที่เราคุ้นเคยคือน้ำตาลโมเลกุลคู่ ซึ่งจะมีทั้งกลูโคสและฟลุ๊กโตส เป็นทั้งตัวให้พลังงานและ ตัวทำลาย น้ำตาลที่เหมาะกับคนคือ กลูโคส

@นายตอต้นตะ Жыл бұрын

@@teamu5676 ร่างกายคนเราต้องการน้ำตาลกลูโคสแค่4กรัม ในกรณี ไม่ใช้แรงใดๆ ใน1วัน และหากไม่กินอะไรเลยในวันนั้น ร่างกายจะเผาไขมันเรามาใช้เป็นน้ำตาลเองอัตโนมัติ เราจึงไม่ต้องกลัวว่าจะขาดน้ำตาล และจะสามารถใช้ชีวิตได้ไม่ต่ำกว่า1เดือนแม้ไม่กินอาหาร แต่ไม่ขาดน้ำ ค่าน้ำตาลในเลือดร่างกายก็จะคงสภาพไว่ไม่ต่ำกว่า60mg นี่คือมหัศจรรย์ของร่างกายคน

@amolple6106 2 жыл бұрын

ผมไม่เชื่อหมอหรอกครับ. (หมายเหตุ)คือไม่เชื่อแบบ.100% ร่างกายคนเราไม่เหมือนกันบางคน กินหวานหน่อยมีเเรงทำงานทำการ บางกินกินผักสดเเล้วรู้สึกกระปรี้กระเป่า บางคนกินผักสดเเล้วรู้สึกท้องอืดธาตุ ของคนไม่เหมือนกันครับผมเชื่อพระพุทธเจ้า คือเดินสายกลางกินอะไรก็ให้กินพอดี จะรักใครชอบใครก็ให้เเบบพอดีมีสติ ทุกอย่างมีทั้งประโยชน์และโทษถ้าเกินพอดี

@thassapontipaksorn8693 7 ай бұрын

หลุดจัดตั่งใจเรียนบ้างก็ดีนะครับ

@thassapontipaksorn8693 7 ай бұрын

มันมีเเรงอยู่เเล้วครับเพราะให้พลังงานลองฟังดีๆในครีปเค้าบอกว่าไร

@r-p6278 2 жыл бұрын

แล้วแต่ร่างกายแต่ละคน แม่ผมกินกาแฟ โอเลี้ยง ตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ 82 ยังสุขภาพดีอยู่ เดินตลาดได้ 3-4 ชั่วโมง

@ok4076 4 ай бұрын

โอเลี้ยง ไม่มีน้ำตาลนะครับ

@r-p6278 4 ай бұрын

@@ok4076 555 เคยกินหรือป่าว บ้านผมขายโอเลี้ยงครับ

@ชาญชัยพงศ์ไพศาล 2 жыл бұрын

ผิดทั้งหมดไม่ว่า ดร. หรือ อาจารย์ที่ไหนบอกคนที่มีการทำงานหนักมากก็ต้องใช้พลังมากแล้วพลังโดยมากมาจากไหนหากไม่ใช่ไขมันและน้ำตาลเดี๋ยวนี้หากส้วมอยู่นอกบ้านก็ไม่เดินแล้วล่ะครับกินหรูอยู่สบายนั่นคือสาเหตุบางคนเหงื่อไม่ออกสักเม็ดในแต่ละวันเรื่องนี้ มันอยู่ที่ไลด์สไตล์ด้วยครับเสร็จจากงานดื่มแอลกอฮอล์พอได้เวลากลับมานอนถึงเวลาก็ไปทำงานแล้วร่างกายจะเอาภูมิคุ้มกันมาจากไหนผมว่าพฤติกรรมของมนุษย์นี่แหละที่สร้างปัญหาให้กับตัวเองในหลายๆด้านของร่างกายมากกว่าครับ

@คุณป้า-ภ4ฮ 2 ай бұрын

แล้วกินหรือไม่กินครับ หรือควรกินวันละเท่าไหร่ทีปลอดภัย

@SurapholKruasuwan 2 жыл бұрын

ลด ละเลิก อาหารหวานๆ มาสี่ปี สุขภาพดีขึ้น จริง ขอบคุณครับผม

@CrazyWin2013 2 жыл бұрын

น้ำตาลเป็นพิษ ก็ไม่แปลก ขนาด รัก ยังเป็น พิษ ได้เลย “อยากจะถอน พิษ ที่คลั่งฝังใจ” “พิษรักที่คุณฝากไว้… ช่างแสนร้ายกาจ”

@jaysiefamily 2 жыл бұрын

ไปศึกษา เรื่องสาร A G E ก่อนแล้วค่อยเชื่อคลิปนี้ จะได้รู้ว่าน้ำตาลมีผลกับร่างกายอย่างไร หมอญี่ปุ่นสามารถสกัดสาร age หรือน้ำตาลที่ถูกใช้แล้วออกจากร่างกายได้ด้วย

@futuretech4641 2 жыл бұрын

พึ่งสังเกตครับ น้ำตาลทรายขาวปัจจุบัน มดมันไม่ขึ้นเหมือนสมัยก่อน ขนาดเปิดถุงไว้นะ แต่น้ำตาลทรายแดงออกานิค มดกัดซองเจาะจนทะลุเข้าไปกิน ก็พอบอกได้ว่าคนควรจะกินแบบไหน

@tomtangmoful 2 жыл бұрын

อะไรที่มากไป น้อยไป = ป่วยทุกคน …… อย่างผม ชอบกินปลาหมึก มาก จนตอนอายุ 28 เป็นคอเรสตอรอลสูง ต้องทานยา แต่ผม เลือกปรับการกิน สุดท้ายก็ไม่ต้องกินยา

@toypimpisarn2550 2 жыл бұрын

เรื่องหวัด สำหรับตัวผมนี่จริง แม้จะวิ่งทุกเช้า 6-10 กิโลทุกวัน ก็ยังเป็น พอหยุดนำ้ตาลทุกชนิด หวัดหายเลย หลายปีแล้ว ผลไม้หวานน้อยได้ แต่ไม่มาก ใครอยากหาย หวัด ภูมิแพ้ ลองดูได้ ซักอาทิตย์ ก็รู้แล้ว

@peemaikub2108 2 жыл бұрын

การศึกษาวิทยาศาสตร์ก็สำคัญมากครับ

@luciferjlynejohannes9862 2 жыл бұрын

ใครไม่เชื่อว่าน้ำตาลอันตรายกินเข้าไปเยอะๆ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน กินทุกวันแล้วสุขภาพจะแข็งแรงแบบน้ำตาลๆ

@pramuanchutham7355 2 жыл бұрын

สารAGE จากการผสมของน้ำตาลและไขมันหรือโปรตีน มีความเหนียว เกาะตามหลอดเลือดและเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆเช่น ไขมันพอก โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน สารพัด...การปรุงอาหารด้วยวิธีลวก-ต้ม(อุณหภูมิไม่เกิน 100-110องศาเซลเซียส ลดการเกิดสารAGEลง10-14เท่า เทียบกับการทอด (เช่นไข่เจียวไข่ดาว เทียบกับไข่ต้ม) และการใช้น้ำมัน(ไขมัน)ในการทอด

@user-ln7gy9td9u 2 жыл бұрын

ขอบพระคุณค่ะ

@havsatmesri9203 Жыл бұрын

ก็เกือบทุกอย่างแหละ อะไรที่มันมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีอยู่แล้ว มันต้องพอดีๆจึงจะดี อย่างกรณีนี้น้ำตาลมากเกินไปก็จะป่วยตาย/น้อยเกินไปก็จะป่วยตายเช่นกัน ต้องพอดีๆเท่านั้น😅

@arnoma5219 2 жыл бұрын

ตอนนี้ลดการกินน้ำตาลไปเยอะเลยค่ะ เพราะเมื่อก่อนติดน้ำอัดลมมากกินแทนน้ำเลยค่ะ

@สวนสบายดีชาแนล 2 жыл бұрын

ทานน้ำอ้อนแทนค่ะไม่มีสารพิษสารเคมีเป็นโมเลกุลเชิงเดี่ยวค่ะ

@Adina11373 2 жыл бұрын

อ้อยก็เป็นน้ำตาลชนิดนึง ถ้าคนป่วยเบาหวานก็ไม่ควรกินนะคะ

@สวนสบายดีชาแนล 2 жыл бұрын

เบาหวานไม่ทานน้ำตาชเลนก้อตายค่ะ

@สมชายหาญญานันท์-ล9ย 2 жыл бұрын

น้ำตาลเทียมที่ใช้ทำน้ำดื่ม มีความ หวานกว่าน้ำตาลแท้600เท่า

@วิเชียรสุขสวัสดิ์-ฮ1ธ 7 ай бұрын

กินวันละกี่ช้อนชา ไม่รู้ แต่ถ้า น้ำตาลในเลือดเกิน 120 เมื่อไหร่ เตรียมเป็นเบาหวาน ได้เลยครับ

@สมชายสุขสมบูณร์ Күн бұрын

ร่างกายสร้างขึ้นมาใด้ ไม่ต้องกินเข้าไปคับ มันมาจากข้าว-แป้ง-ผลไม้-ผักหัว ที่เรากินเข้าไป แค่นี้ก็มาก็เกินไปแล้วคับ

@ลาวัลย์ไกรกูล Жыл бұрын

ช่วยแนะนำความรู้ของ น้ำตาลกรวด ได้ไหมค่ะ🍀🙏🍀

@สมชายสุขสมบูณร์ Күн бұрын

กินให้น้อยที่สุด ไม่กินเลยดีสุดคับ เราใด้มาจากการกินอย่างอื่นก็มากพอแล้วคับ ถ้าขาดร่างกายก็สร้างขึ้นมาใด้

@tamadaudsatid4151 2 жыл бұрын

น้ำตาล 6 ช้อนชาปสมน้ำปลา 3 ช้อนชา ปฏิกิริยาทางเคมีจะเปลี่ยนแปลงไจากเดิมหรือไม่

@Promsun492 2 жыл бұрын

ทุกอย่างมีที่เราเป็นคือกรรม

@สมควรเชาว์วัฒนาพานิช 2 жыл бұрын

ขอบคุณมากค่ะ

@tasuthapricha8393 2 жыл бұрын

คนติดโควิด ไม่ควรบริโภคของหวาน และ เครื่องดื่ม จริงไหมครับ

@หัวเหว่ยเหว่ย-ฦ4ฬ 2 жыл бұрын

บริโภคน้ำพึ่งทุกวันจะไห้โทษอะไรไหมครับ วันละ 2 ช้อนโต๊ะ

@yesno7501 2 жыл бұрын

ที่หมอพุดมานี้ถุกตอ้งทุกอย่างค่ะ

@pipey....5762 2 жыл бұрын

น้ำตาล ถ้า ทานมากเกินไปก็พิษ จบ... แต่ คนเราขาดน้ำตาลไม่ตาย... รู้แค่นี้พอละ ถ้าอ้วนมากๆ if เลย อด สามวัน ดื่มแต่น้ำเปล่า (ต้องมีคนเชี่ยวชาญดูแล,)

@พนารัตน์ดรงฤทธิ์ 2 жыл бұрын

กินอะไนมากเกินเป็นพิษต่อร่ายกายทั้งนั้น

@doudle-foolish 2 жыл бұрын

จริง

@KhaiPatthawat 2 жыл бұрын

กินอยู่แต่พอดี ไม่มีโรค

@poydchindai7319 2 жыл бұрын

ตกลงน้ำตาลมีข้อดีมั้ยครับ 6ช้อนชาต่อวัน หมายถึงพลังงานที่ร่างกายต้องการ หรือเป็นปริมาณที่รองรับความอยากกินรสหวานในแต่ละวันครับ เหมือนน้ำตาลเป็นสิ่งที่ไม่ดี100%เลย อยากจเให้พูดถึงข้อดีของน้ำตาลบางครับ(ถ้ามีนะครับ)

@แอบบอกออกแบบ 2 жыл бұрын

ข้อดีคือให้พลังงานได้ไว เนื่องจากดูดซึมไว แต่คาร์โบรไฮเดรตมันย่อยง่ายทำให้หิวบ่อย เมื่อหิวบ่อยคนเลยกินบ่อย ทำให้ได้พลังงานเยอะเกินความจำเป็นจึงไปสะสมเป็นไขมัน และหลังอินซูลินมากเกินความจำเป็นเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ มะเร็งตามมาครับ ถึงไม่กินน้ำตาลเลยในเนื้อสัตว์ นม พืชผักผลไม้ก้มีน้ำตาลอยู่แล้วครับ

@Numyai 2 жыл бұрын

ขอบคุณมากครับ

@futurephone8289 2 жыл бұрын

ผมจะยกเว้นสีขาวครับ

@s.l8520 2 жыл бұрын

น้ำตาลจะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ แต่ถ้าขาดน้ำตาลเหมือนจะไม่มีแรง ใครเป็นบ้าง

@nunnichak 2 жыл бұрын

เราเป็นค่ะ

@Adina11373 2 жыл бұрын

เป็นเพราะว่าร่างกายคนส่วนใหญ่เคยชินกับการใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลเป็นหลักค่ะ น้ำตาลดูดซึมได้เร็ว ร่างกายนำไปใช้ได้เร็ว เลยรู้สึกสดชื่น แต่ก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ ค่ะ แต่สมัยนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามฝึกร่างกายให้หันไปใช้พลังงานจากไขมันกันได้เยอะ คือต้องงดน้ำตาลและลดคาร์โบไฮเดรตลง ช่วงแรกๆ อาจจะไม่สดชื่นนัก แต่พอผ่านพ้นช่วงแรกๆ ไป ร่างกายปรับตัวใช้พลังงานจากไขมันได้ อาการอ่อนเพลียก็จะลด ลง จะกระปรี้กระเปร่าขึ้นค่ะ และรูปร่าง และผิวพรรณก็ดีขึ้นด้วย เราก็ยังไม่ถึงจุดนั้น แต่ก็พยายามงดการเติมน้ำตาล และลดคาร์โบไฮเดรตลงค่ะ

@เทียนฉื่อจุน 2 жыл бұрын

นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายได้รับพลังงานมากเกินจำเป็น ในระยะเวลาอันสั้นไปครั้งหนึ่ง แล้วพลังงานที่เหลือก็ถูกแปลงไปเป็น ไขมันเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อพลังงานชุดแรกหมดลง ก็จะทำให้ร่างกายโหยหาน้ำตาล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราดื่มน้ำอัดลมเข้าไป พลังงานที่ได้รับจะเป็นน้ำตาลที่อยู่ในนั้น สมมุติว่าได้พลังงานสัก 200 Kcal. ซึ่งร่างกายสามารถย่อย ดูดซึม และเอาไปใช้ได้ภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที ทำให้เรารู้สึกมีแรงขึ้นมา ได้อย่างรวดเร็วหลังจากดืมมัน แต่ถ้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น เราใช้พลังงานไปเพียง 80 Kcal. จาก 200 Kcal. ที่กินเข้าไป ส่วนที่เหลือ 120 Kcal. จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันไปเก็บตามส่วนต่างๆ ซึ่งไขมัน 120 Kcal. นั้นกว่าจะย่อยกลับมา ใช้ได้อีกจะเสียเวลา นานมากๆ ทำให้เรารู้สึกอยากกินของหวานอีกครั้งเพื่อให้ร่างกาย ได้รับพลังงานเข้ามาไวๆ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงรู้สึกหมดแรง แล้วอยากกินของหวาน

@daidai3164 Жыл бұрын

ตอบเหมือน ไม่ตอบ ทุก ep ตอบครึ่งๆๆ กลางๆๆๆ

@tanaporn-um6qn 10 ай бұрын

คุณแม่กินหวานทุกอย่างทั้งกับข้าวทั้งขนม 80กว่าไม่เคยเป็นเบาหวาน แต่ลูกสาวไม่กินขนมหวานแต่กินเหล้ากับโค้ก ตอนนี้ฉีดอินซูลินอย่างเดียว ต้องดูแลตัวเองแต่ละคนไม่เหมือนกัน

@โยเยขี้แย 9 ай бұрын

แชร์มาในไลน์ครอบครัว คนแชร์ชอบแนวนี้อยู่แล้ว คือต้องมีว่าคนอื่นแบบโจมตีเขา

@ch.1348 2 жыл бұрын

เบาหวานด้วย สารพัด

@wanna3380 2 жыл бұрын

แต่เวลากินกล้วย เวลาแลบท้องก็หายแสบ เชื่อประสบการณ์ดีกว่าเชื่อหมอ

@kaewbuatoom5300 2 жыл бұрын

น้ำตาลเหมือนเป็นสิ่งเสพติด แต่ต้องกินหรือใช้ไห้พอดีกับการต้องการของร่างกายคะ

@bouaphansvkc6042 2 жыл бұрын

ບາງຄົນຟັງແລ້ວກ່ຽວກັບການກິນນ້ຳຕານ ຄິດຢ້ານກົວຢ່າງແຮງ, ຂພຈ ກິນທຸກວັນກັບກາເຟຕອນເຊົ້າແຕ່ອາຍຸຍັງໜຸ່ມ ດຽວນີ້ອາຍຸ 68 ປີແລ້ວຖືວ່າທຳມະດາບໍ່ມີຫຍັງຜິດປົກກະຕິ(ກວດສຸຂະພາບນ້ຳຕານປົກກະຕິ) ສິ່ງທີ່ບໍ່ຢາກໃຫ້ໃກ້ຄືນ້ຳຕານຟູໂຕສ. ສະນັ້ນ ຈຶ່ງສະຫລຸບວ່າກິນນ້ຳຕານບໍ່ດີຕໍ່ສຸຂະພາບນັ້ນມັນຂຶ້ນກັບສະພາບຮ່າງກາຍຂອງບຸກຄົນ

@gontang5054 2 жыл бұрын

Hadir teman ikut nyimak❤❤❤❤👍🙏

@teeraphanj 2 жыл бұрын

ระบบร่างกายคนเรามีการเผาผลาญไม่เหมือนกัน ขอแค่ให้รู้จักตัวเอง ว่าระบบเผาผลาญของเราอยู่ระดับไหน กินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้เหมาะสม อย่าให้เกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็จะดี ถ้าเกินก็มีโทษ คนทำงานหนัก ทานแป้งและน้ำตาลเยอะหน่อย มันก็อาจจะช่วยในเรื่องของแรงในการทำงาน คนทำงานเบา ทำงานสำนักงาน นั่งหน้าคอมฯ ทานแป้งน้ำตาลมาก ก็เสี่ยงพลังงานเกิน ดังนั้นเลยมองว่า ควรพิจารณาเรื่องระบบเผาผลาญส่วนตัวและการทำงานของเรา ควบคู่กัน จะทำให้ทานอาหาร แป้ง และน้ำตาลได้อย่างเหมาะสม ตอนนี้ผมทานอาหารแบบลดแป้งและน้ำตาล หรือแบบโลคาร์ป น้ำหนักจาก 71 เหลือทรงๆ ที่ 63-64 พุงยุบ คางยุบ เบาตัว แต่ก็ยังมีแรงทำงานปกติ

@goto4u...tomorrow 2 жыл бұрын

น้ำตาลทรายแดง...น้ำตาลไม่ฟอกสี...จะดีกว่า.

@tooshowme2137 2 жыл бұрын

อันตรายเพราะการแปรรูป

@ดวงใจศุภประเสริฐ 2 жыл бұрын

ขาดหวานเป็นลม

@สมพรน้อยสุวรรณ 2 жыл бұрын

มากเกิน..เบาหวาน

@JamesSTN 2 жыл бұрын

ผมกินอาหารใส่น้ำตาลไม่ได้เลย มันไม่อร่อยลิ้น มันจะอ๊วก

@Sam-wv7nr Жыл бұрын

น้ำตาลมะพร้าวดีทีสุด

@tamadaudsatid4151 2 жыл бұрын

น้ำตาล 6 ช้อนชาที่กินเข้าร่างกายมันจะไปอยู่ที่ไหน

@Adina11373 2 жыл бұрын

ถ้ากินน้ำตาลน้อย ( รวมคาร์โบไฮเดรตอื่นด้วยนะคะ ไม่มากเกินไป ) ร่างกายจะนำมาใช้เป็นพลังงาน เผาผลาญหมดค่ะ

@maikungza1 2 жыл бұрын

ถ้าไม่ทำกับข้าวเอง กินของทั่วๆไป เกินอยู่แล้ว นี่ยังไม่นับรวมขนม น้ำหวานนะ

@ch.1348 2 жыл бұрын

ความดัน

@BKKSugar 2 жыл бұрын

ต้องพิจารณาให้ดีก่อนจะตัดสินใจว่าน้ำตาลเป็นพิษหรือไม่นะครับ เกลือก็เป็นพิษ วิตามินก็เป็นพิษ เนื้อสัตว์ก็เป็นพิษ ถ้าเรากินมากเกินไป คุณกินข้าว, ก๋วยเตี๋ยว, ขนมปังมั้ย? เมื่อกินเข้าไปร่างกายก็ย่อยเป็นน้ำตาลซึมเข้ากระแสเลือด ไปเลี้ยงเซลกล้ามเนื้อและเซลสมองให้พลังงานสามารถขยับเคลื่อนไหวหรือคิดอะไรได้ สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานมาก ร่างกายจะโหยหาความหวานโดยที่เราไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเมื่อเราทำงานหนักหรือใช้ความคิดมากๆ น้ำตาลเป็นพิษ??? เราคงต้องบอกว่าเกลือ-วิตามิน-เนื้อสัตว์-นม-ทุกอย่างแม้กระทั่งน้ำก็เป็นพิษ ถ้าเรากืนมากเกินไป

@neznezzy2141 Жыл бұрын

นั่นก็ไม่ดี นี่ก็กินไม่ได้ สรุปกินน้ำค้างบนยอดหญ้า ปลอดภัยที่สุด

@แล้วแต่ปุแดงได้หมด 2 жыл бұрын

เป็นสิ กระสอบตั้ง50โล ปวดหลังมาก

@มังกรคาบแก้ว-ฅ9ป 2 жыл бұрын

นํ้าตาล=เบาหวาน เบาหวาน=มะเร็ง มะเร็ง=ตาย

@tingting4998 2 жыл бұрын

น้ำตาลไม่ดีจริงๆครับ ต้องสังเกตและวิจัยด้วยตัวท่านเองครับ เริ่มสังเกตจากเรื่องส่งผลเล็กๆน้อยๆไปก่อน อย่าเพิ่งไปเปรียบกับโรคร้ายอื่นๆ ระหว่างกินน้ำตาลกับไม่กินน้ำตาลส่งผลอย่างไร เช่นยกตัวอย่างประสบการณ์ผมทุกวันนี้กินน้ำตาลสิวจะขึ้นเยอะขึ้นมาก แต่ถ้างดน้ำตาลสิวจะไม่ขึ้นถึงขึ้นก็น้อยที่สุด

@hub1919ful 4 ай бұрын

👍👍🥰

@kornveeka 2 жыл бұрын

👍

@ok4076 4 ай бұрын

เอาจริงนะ น้ำตาลไม่จำเป็น ร่างกายสร้างได้จากตับ ยกเว้นคนที่ทำงานใช้แรงเยอะๆ

@pornthipchonbodeechalermro3844 2 жыл бұрын

กินพอเหมาะ

@nangraksagoodell9584 2 жыл бұрын

ไม่น้าเลย นำ้ตาล ขนมอร่อยมาก

@somdechsrisook7465 2 жыл бұрын

นำ้ตาลทำให้แก่เร็วใช้หรือไม่

@pongsripian 2 жыл бұрын

ใช่ครับถ้าทานมากเกินไป

@Adina11373 2 жыл бұрын

น่าจะมีส่วนค่ะ เพราะเห็นคนตัดน้ำตาลได้ รูปร่างเล็กลง และสุขภาพดี ผิวพรรณดีค่ะ

@เชวงศักดิ์มูลชาภิรมย์ Жыл бұрын

ถ้าให้สรุป...น้ำตาลก็ไม่ได้สิ่งเลวร้ายอะไรถ้ากินในปริมาณที่พอดี...มันอยู่ที่พฤติกรรมการกินของเรามากกว่า...อะไรที่มันมากเกินไปมีโทษทั้งนั้น

@Faruox 2 жыл бұрын

#น้ำตาลคือสารพิษ

@nattavutsrinorakut5214 2 жыл бұрын

enter at your own risk

@Wichuda801 2 жыл бұрын

ควรจะบอกด้วยว่าน้ำตาล6ชช.นั้นคือแค่ไหน? ยกตย.ในน้ำอัดลม1กป.ก็มีนต.=6ชช.แล้ว ถ้ามีรูปเทียบปริมานน้ำตาล คนจะเข้าใจมากขึ้น พูดแค่นี้คนมองภาพไม่ออก แม้แต่ในน้ำปลาก็มีน้ำตาล ซอสมะเขือเทศ น้ำจิ้มต่างๆก็มีน้ำตาล /วันนึงไม่ได้ตักน้ำตาลเลย แต่กินชาใข่มุก น้ำผลไม้ น้ำหวานต่างๆ น้ำตาลเพียบๆๆๆเลย *พูดเพิ่มหน่อยนะคะ ไม่งั้นที่สอนไปก็เท่านั้น คนไม่Get ว่าแค่ไหนคือ6ชช. ก็กินแบบเดิม โรคเยอะขึ้นทุกวันแล้วค่ะ *ขอให้เก็บภาษี น้ำหวานตามเปอร์เซ็นต์น้ำตาลเลยค่ะ มีผลแน่นอน

@จันทร์เพ็ญโอ้นุช 2 жыл бұрын

เป็นไปไม่ได้ที่จะงดน้ำตาลเลย

@Adina11373 2 жыл бұрын

เป็นไปได้นะคะมีคนทำได้เยอะ ลองค้นคำว่า "คีโต" " โลว์คาร์บ" "อาหารคลีน" ดู ทั้ง 3 อย่างวิถีอาจต่างกัน แต่ทั้ง 3 เส้นทาง งดการเติมน้ำตาลค่ะ แต่ถ้ายังติดรสหวาน เขาก็จะหันไปใช้น้ำตาลเทียมแบบที่ไม่กระตุ้นอินซูลินกัน อย่างพวก น้ำตาลหญ้าหวาน น้ำตาลหล่อฮั่งก้วย น้ำตาลอีรีทฯ

@Alexon_Browd 5 ай бұрын

พูดเรื่องนี้ไปก็เถียงกันไม่จบอะนะ พนักงานทำงานประจำโต๊ะเงินเดือน รายได้สูงหรืองานที่ต้องรักษารูปร่าง จะป่วยบ่อยและเวลาป่วยก็อาการหนัก ก็มักบอกนู้นนี้นั้นไม่ดี ทั้ง ๆ ที่สาเหตุเกิดจากการไม่มีเวลาออกกำลังกาย และคนจำพวกนี้เป็นมะเร็งและเบาหวานกันเยอะ ส่วนคนทำงานขยับเขยื่อนตลอดจนไปถึงใช้แรงงานหนัก ก็จะพูดอีกแบบให้ตายก็จะกิน รายได้น้อยโรคเครียดเยอะ 😅😅😅

@chonlatheewong5072 2 жыл бұрын

👍🙏💖💕

@aunelm7086 2 жыл бұрын

หมอไม่เคยรู้เหรอครับ ว่ามีนักวิจัยแจ้งว่า สมองใช้น้ำตาลเป็นพลังงาน

@Adina11373 2 жыл бұрын

จริงๆ มนุษย์เราแปลงคาร์โบไฮเดรต จากพืชผักผลไม้ พอย่อยแล้วก็ดูดซึมเป็นน้ำตาลได้อยู่แล้วนะคะ ซึ่งบางทีเราไม่รู้สึกหวาน แต่มันมีน้ำตาลในธรรมชาติค่ะ อย่าง ใน ข้าว เผือก มัน ข้าวโพด ถั่วต่างๆ และยังพวกแป้ง และผลไม้อีก สังเกตง่ายๆ ค่ะ เวลาเราเคี้ยวข้าว แป้ง หรือพวกข้างบนช้า หรืออมไว้ จะรู้สึกหวาน แต่พวกข้างบน รวมถึงข้าวกล้อง ( ยกเว้นข้าวขาว และแป้งขาว ) ยังดี ที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จะย่อยช้า อยู่ท้องนาน ดูดซึมได้ทีละนิดๆ ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่แกว่งค่ะ

@pongsripian 2 жыл бұрын

หมอเขารู้อยู่แล้วครับ แต่ในคลิปนี้เขาชี้ว่าอย่าบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน ส่วนที่เกินจะเปลี่ยนเป็นไขมัน ก่อให้เกิดการอักเสบ และทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังตามมา

@Adina11373 2 жыл бұрын

นมก็เช่นกัน มีน้ำตาลที่ชื่อว่าแลคโตส ดังนั้นส่วนใหญ่อาหารในชีวิตประจำวันเราก็มีน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต ( ที่จะแปลงเป็นน้ำตาลอยู่พอสมควรแล้ว ) ดังนั้นจึงควรจำกัดการเติมเพิ่มค่ะ ถ้าคุมได้ก็จะดีต่อสุขภาพค่ะ และสมัยนี้ มีคนกลุ่มนึงที่ลดความอ้วนและรักสุขภาพ พยายามคุมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลให้น้อยที่สุด จะเรียกการกินแบบนี้ว่า คีโต ซึ่งเห็นผล มีกลุ่มคนหลากหลายวิชาชีพที่ใช้สมอง แม้แต่หมอค่ะ ลองค้นคำว่า คีโต หรือ โลว์คาร์บดูค่ะ ในยูทูบก็มีเยอะ

@ninaddful 2 жыл бұрын

ควรเลิกผลิตน้ำตาลไปเลยค่ะ

@BKKSugar 2 жыл бұрын

ต้องเลิกกินข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ฯลฯ เพราะร่างกายย่อยแล้วเป็นน้ำตาลซึมเข้ากระแสเลือดไปเลี้ยงให้พลังงานเซลต่างๆ ด้วยนะ

@tnc3848 2 жыл бұрын

ซูโครส เป็นโมเลกุลคู่(ไดแซคาไร) ไม่มีในธรรมชาติ

@BKKSugar 2 жыл бұрын

อ้อยเป็นพืชที่สร้างน้ำตาลซูโครส เอาน้ำอ้อยมากกรองแล้วตกผลึกก็จะได้น้ำตาลทราย

@Sam-wv7nr Жыл бұрын

ไม่เชื่อลองดู

@MrKiraYamoto 2 жыл бұрын

สรุปว่าจริง ทุกอย่าง 555

@เสือไม่ร้องไห้-ฅ2ข 2 жыл бұрын

เป็นรายการที่ค่อนข้างแปลก อะไรที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือ ภูมิปัญญาไทยบอกว่าดี มันจะบอกว่าไม่ช่าย อะไรที่น่าจะมีปัญหาไม่น่าจะจริง คนพึงพอใจ มันจะรีบสวนทางบอกว่าไม่จริง..นี่ละรายการของช่องนี้

@Adina11373 2 жыл бұрын

เขาเอาความรู้คนที่มีความรู้เฉพาะทางจริงๆ มาให้ความรู้ไม่ดีเหรอ บางอย่างมันก็เป็นความเชื่อผิดๆ ที่เชื่อกันไปเอง พอเขาเบรคบอกความจริง ก็ว่าเขาแปลก รายการนี้เขาสร้างมาเพื่อให้ข้อมูลที่ถูก คนที่ค้านเขามากกว่าที่แปลก

@pongsripian 2 жыл бұрын

วิทยาศาสตร์ทำให้คนมีความรู้ คิดอย่างมีเหตุผล มีหลักฐาน และพิสูจน์ได้ บางกรณีมันอาจจะค้านกับสิ่งที่เชื่อหรือเล่าสืบต่อกันมา เหมือนคนโบราณที่บอกว่าโลกแบนซึ่งไม่จริง แต่ความรู้บางอย่างก็มีส่วนจริง และถือเป็นภูมิปัญญา เช่นฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสบางชนิดและต้านการอักเสบได้

@sxsmnb1905 2 жыл бұрын

น้ำตาลคือตัวปัญหาเพราะมีพลังงานสูงและสมองชอบต้องกินไม่ให้เกินปริมานที่ร่างกายต้องการดีที่สุดคนเราเป็นโรคเกิดจากหลายสาเหตุอย่าโทษแต่น้ำตาลครับอย่างไขมันก็เหมือนกันหากกินในปริมานที่มากจนร่างกายจัดการไม่ทันก็ทำให้เกิดโรคได้เหมือนกันครับใช้สติก่อนบริโภคครับผม😁😁😁