@@รักชาติผดุงไทย-ฝ6ฉ จุดที่คุณพูดนั่นเรียกว่า Energy density กับ Volume density สิ่งที่คุณกล่าวมานี่แหละ คือหัวใจของ EV หรือของทุกสิ่งทุกอย่างในโลกที่ใช้แบตเตอรี่กำลังรอคอย สิ่งที่นักคิดค้นแบตใหม่ๆปวดหัวกำลังพยายามทำ ก็คือเรื่อง Energy density กับ Volume density นี่แหละ ที่เขาพยายามจะเพิ่มมันให้ได้ คุณทราบไหมว่าตอนนี้แบตดีสุดในโลก ยังมี Energy density แค่ ประมาณ 200Wh ต่อกิโลกรัม หรือ 7.2 แสนจูล (720kJ) ต่อกิโลกรัม ในขณะที่น้ำมันเบนซินมี Energy density 46 ล้านจูล (46MJ) ต่อกิโลกรัม แปลว่าแบตประมาณ 50 กิโลกรัม จะมีพลังงานเทียบเท่าน้ำมันเบนซินแค่เพียง 1 กิโลกรัม รวมถึงปริมาตรยัวไม่ได้ด้วย นี้แหละก็คงเข้าใจไม่ยากว่าทำไม แบตเตอรี่ถึงยังต้องเร่งพัฒนา ทำไมคนถึงมองรถไฟฟ้าไม่แรงมาตั้งแต่อดีต หรือ ทำไมเครื่องบินไฟฟ้าไม่เกิดสักที เพราะเทคโนโลยีแบตมันยังไม่ถึงนี่แหละ ตัวมอเตอร์เองมันพร้อมอยู่นานแล้ว
ผมว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลยครับ ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อม, เศรษฐกิจและอื่นๆ ถ้ารถยนต์/รถบรรทุก ไม่มาแย่งชิงออกซิเจนที่พวกเราต้องใช้หายใจ คนในเมืองก็น่าจะมีออกซิเจนเหลือเอาไว้ใช้หายใจเพิ่มขึ้น ในแง่เศรษฐกิจก็จะช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ทำให้ราคาสินค้าของไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ไม่ต้องกังวลกับราคาน้ำมันในตลาดโลกมากนัก อยากให้มีคนเก่งๆ แบบนี้ในประเทศเยอะๆ ครับ To the moon Go Go Go!
เพราะ LFP ถ้าเทียบกับ NMC จะมี energy density น้อยกว่า ถ้าใส่ในรถยนต์นั่งจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักครับ แต่ก็มี byd เอามาใช้ และมีเทสล่าตัวของจีนมาใช้ซึ่งถือว่า LFP นี่พัฒนามาไกลมากครับ